คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นเรื่องความเหมาะสมต่อการใช้งานมากกว่านะครับ (ขอพูดถึงแต่ต้นกำลังนะครับ)
....ตัวอย่างเช่น sonic 125 มีลูกสูบ 58 mm และก้าน 47 mm
wave 125 มีลูกสูบ 52 mm และก้าน 58 mm
จะเห็นได้ว่าทั้งสองคันมีความจุ 125 cc เท่ากัน แต่ขนาดลูกสูบและช่วงชักต่างกัน
.....sonic 125 เร่งความเร็วรอบได้มากกว่า 11,000 รอบต่อนาที จึงต้องมีลูกสูบที่มีขนาดใหญ่ และก้านที่สั้น เพื่อลดแรงเค้นที่จะเกิดขึ้นกับก้านสูบในรอบสูงๆ เครื่องยนต์แบบนี้ความเร็วรอบจะมาเร็วกว่า และให้กำลังและแรงบิดสูงสุดในรอบสูง แต่จะไม่เน้นกำลังและแรงบิดในรอบต่ำ จึงเหมาะต่อการวิ่งทางเรียบใช้ความเร็วสูง ไม่เหมาะจะเอาไปลุยสวน
....wave 125 ความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 7,500 รอบต่อนาที ออกแบบให้เป็นรถครอบครัว และเหมาะต่อการขับได้เกือบทุกที่ ควรต้องมีแรงบิดดีในรอบต่ำถึงกลางเพื่อไม่ต้องใช้คันเร่งมาก ช่วยประหยัดน้ำมัน จึงควรมีก้านยาว และลูกสูบเล็ก เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ต้องการ ซึ่งกล่องควบคุมต้องตัดการทำงานที่ 7,500รอบต่อนาที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในรอบสูง
ที่ผมพูดมา...ถ้าไม่เข้าใจ ลองนึกถึง คนวิ่งแข่งกัน มีคนขายาวกับคนขาสั้น นะครับ หลักการเดียวกัน คนขาสั้นจะซอยเท้าได้ถึ่กว่าและเร็วกว่าคนขายาว ถ้าคนขายาวถ้าจะซอยเท้าให้เร็วเท่าคนขาสั้น เขาจะต้องเหนื่อยมาก (ถ้าเป็นเครื่องจะส่งผลต่ออายุการใช้งานเต็มๆ)
ส่วนเรื่องแรงบิดคนขายาวจะมีมากกว่าในความถี่เท่ากันตามหลักโมเมนต์ ที่เรียนกันตอนมัธยมปลาย
จากหลักการสรุปคือ
----ถ้าเป็นเครื่องแบบก้านสั้น ลูกใหญ่แบบ sonic จะเพิ่ม cc จึงควรขยายขนาดลูกสูบ ไม่ควรเพิ่มความยาวก้าน
(มีให้เห็นใน CBR 150 มีขนาดลูกสูบ 63 mm ก้านยาวเท่า Sonic)
----ถ้าเป็นเครื่องแบบก้านยาว ลูกเล็ก แบบ wave ควรจะเพิ่ม cc ด้วยการ ขยายขนาด และ ความยาวก้านให้อัตราส่วนความยาวก้านต่อลูกสูบ คงเดิม
.....ซึ่งการเพิ่มความจุเครื่องยนต์จะทำให้ได้กำลังมากขึ้นอย่างแน่นอน
....ไม่มีเครื่องยนต์ที่ให้กำลังและแรงบิดดีในทุกๆความเร็วรอบ เครื่องทุกแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
....ตัวอย่างเช่น sonic 125 มีลูกสูบ 58 mm และก้าน 47 mm
wave 125 มีลูกสูบ 52 mm และก้าน 58 mm
จะเห็นได้ว่าทั้งสองคันมีความจุ 125 cc เท่ากัน แต่ขนาดลูกสูบและช่วงชักต่างกัน
.....sonic 125 เร่งความเร็วรอบได้มากกว่า 11,000 รอบต่อนาที จึงต้องมีลูกสูบที่มีขนาดใหญ่ และก้านที่สั้น เพื่อลดแรงเค้นที่จะเกิดขึ้นกับก้านสูบในรอบสูงๆ เครื่องยนต์แบบนี้ความเร็วรอบจะมาเร็วกว่า และให้กำลังและแรงบิดสูงสุดในรอบสูง แต่จะไม่เน้นกำลังและแรงบิดในรอบต่ำ จึงเหมาะต่อการวิ่งทางเรียบใช้ความเร็วสูง ไม่เหมาะจะเอาไปลุยสวน
....wave 125 ความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 7,500 รอบต่อนาที ออกแบบให้เป็นรถครอบครัว และเหมาะต่อการขับได้เกือบทุกที่ ควรต้องมีแรงบิดดีในรอบต่ำถึงกลางเพื่อไม่ต้องใช้คันเร่งมาก ช่วยประหยัดน้ำมัน จึงควรมีก้านยาว และลูกสูบเล็ก เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ต้องการ ซึ่งกล่องควบคุมต้องตัดการทำงานที่ 7,500รอบต่อนาที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในรอบสูง
ที่ผมพูดมา...ถ้าไม่เข้าใจ ลองนึกถึง คนวิ่งแข่งกัน มีคนขายาวกับคนขาสั้น นะครับ หลักการเดียวกัน คนขาสั้นจะซอยเท้าได้ถึ่กว่าและเร็วกว่าคนขายาว ถ้าคนขายาวถ้าจะซอยเท้าให้เร็วเท่าคนขาสั้น เขาจะต้องเหนื่อยมาก (ถ้าเป็นเครื่องจะส่งผลต่ออายุการใช้งานเต็มๆ)
ส่วนเรื่องแรงบิดคนขายาวจะมีมากกว่าในความถี่เท่ากันตามหลักโมเมนต์ ที่เรียนกันตอนมัธยมปลาย
จากหลักการสรุปคือ
----ถ้าเป็นเครื่องแบบก้านสั้น ลูกใหญ่แบบ sonic จะเพิ่ม cc จึงควรขยายขนาดลูกสูบ ไม่ควรเพิ่มความยาวก้าน
(มีให้เห็นใน CBR 150 มีขนาดลูกสูบ 63 mm ก้านยาวเท่า Sonic)
----ถ้าเป็นเครื่องแบบก้านยาว ลูกเล็ก แบบ wave ควรจะเพิ่ม cc ด้วยการ ขยายขนาด และ ความยาวก้านให้อัตราส่วนความยาวก้านต่อลูกสูบ คงเดิม
.....ซึ่งการเพิ่มความจุเครื่องยนต์จะทำให้ได้กำลังมากขึ้นอย่างแน่นอน
....ไม่มีเครื่องยนต์ที่ให้กำลังและแรงบิดดีในทุกๆความเร็วรอบ เครื่องทุกแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
แสดงความคิดเห็น
ลูกสูบใหญ่ขึ้น ทำให้รอบมาเร็วหรือความเร็วเพิ่มครับ
อยากรู้ว่า (ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง) (รถหัวฉีด) (ผมอยากเพิ่มความเร็วแบบที่ไม่กระชักเครื่อง)(ผมทำเครื่องเป็นแต่ไม่เซียน หลักการไม่แน่นไม่เคยทดลอง)
>ขยายลูกสูบ ทำให้รอบมาเร็วหรือเพิ่มความเร็วรถ แต่รอบเท่าเดิม
>ยึดระยะชักลูกสูบ ทำให้ความเร็วเพิ่ม จากระยะชักที่ยาวขึ้น หรือ ทำให้รอบสูงให้สูงขึ้นได้อีกจากเดิม แต่รอบมาช้าและความเร็วเท่าเดิม